17 องค์กรไทยคว้ารางวัล ASOCIO 2024 DX Awardพลิกโฉมประเทศด้วยเทคโนโลยี 
.
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา องค์กรไทย 17 องค์กร ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติด้วยการคว้ารางวัล ASOCIO 2024 DX Award ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงานได้อย่างโดดเด่นและสร้างสรรค์
.
งาน ASOCIO Awards จัดขึ้นโดยสมาพันธ์เอเชียแปซิฟิกเพื่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ (Asian-Oceanian Computing Industry Organization : ASOCIO) มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมและยกย่ององค์กรที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการปรับปรุงกระบวนการทำงาน การเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงเป็นเวทีที่สำคัญในการส่งเสริม และผลักดันองค์กรที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม ซึ่งการที่องค์กรไทยได้รับรางวัลในเวทีระดับนานาชาติ ทำให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในยุคดิจิทัลมากขึ้น
.
โดยในงานนี้มีประเทศสมาชิกจาก 24 ประเทศที่เข้าร่วมงาน และมีการเสนอรางวัลให้กับองค์กรของประเทศสมาชิกที่นำ IT มาใช้ในการพัฒนาองค์กรได้อย่างโดดเด่นและประสบผลสำเร็จ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนองค์กรในยุคดิจิทัลอีกด้วย
.
ซึ่งประเทศไทยหนึ่งในประเทศสมาชิก นำโดยสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย (ATCI) พร้อมองค์กรไทยทั้ง 17 องค์กรที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ที่มีหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านดิจิทัลของประเทศไทย โดยจะได้รับรางวัลในสาขาที่แตกต่างกันไป เช่น รางวัล Digital Government Award, HealthTech Award, Women in Tech Award และ Public/Private Award ทำให้เห็นถึงความหลากหลายของนวัตกรรมที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
.
หนึ่งในหน่วยงานที่น่าสนใจจากการเข้ารับรางวัลครั้งนี้คือ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ได้รับรางวัล 2 สาขา ได้แก่ สาขา Health Tech Award in Public Sector โดยกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ จากโครงการ Financial Data Hub และสาขา Environmental, Social & Governance : ESG Award in Public Sector โดยสำนักงานสุขภาพดิจิทัล จากโครงการ Health Rider
.
ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดขึ้น และพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบบริการสุขภาพของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพและการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
1. Financial Data Hub : เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงินของกระทรวงสาธารณสุข ที่เชื่อมข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับสิทธิการรักษาพยาบาลของประชาชน นำมาสู่การวิเคราะห์ วางแผน และบริหารจัดการข้อมูลด้านการเงินในระบบสุขภาพที่ชาญฉลาด ช่วยให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุด
2. Health Rider : เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วจัดส่งยา / เวชภัณฑ์จำเป็นให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน ช่วยให้การเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
การที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สามารถคว้ารางวัลระดับโลกมาได้ในครั้งนี้ เป็นอีกสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของนวัตกรรมทางการแพทย์อย่างเต็มตัว ซึ่งหากมีการต่อยอด และพัฒนาโครงการเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น เช่น การขยายขอบเขตการให้บริการของ Health Rider หรือการพัฒนา Financial Data Hub ให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้หลากหลายมิติมากขึ้น จะช่วยยกระดับระบบบริการสุขภาพของประเทศให้ก้าวทันโลก และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
